4 วิธีการเลือกซื้อ เครื่องชาร์จถ่าน

2. ดูว่าที่ชาร์จสามารถชาร์จได้กี่ก้อน ?

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราควรพิจารณาด้วยเช่นกันนะครับ เพราะถ้าหากคุณมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เยอะหรือมีความจำเป็นที่ต้องใช้ถ่านชาร์จมากจำนวนหนึ่ง การซื้อเครื่องชาร์จที่สามารถชาร์จถ่านได้จำนวนมากในเวลาพร้อมกัน มันจะไม่เสียเวลาในการรอชาร์จแบตเตอรี่ทีละก้อน ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่แล้วถ่านชาร์จประเภท นิกเกิล เมทัลไฮไดรต์ (Ni-MH) จะผลิตถ่านชาร์จ 4 ก้อนต่อแพ็ค ดังนั้นถ้าให้ผมแนะนำ ผมอยากแนะนำให้ซื้อเครื่องชาร์จถ่านที่สามารถชาร์จได้อย่างน้อย 4 ก้อนครับ แต่ถ้าหากคุณไม่ได้มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องใช้ถ่านจำนวนมากการซื้อเครื่องชาร์จถ่าน 2 ก้อนก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้วละครับ

3. ดูว่ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติหรือไม่ ?

ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการมาดูว่าถ่านชาร์จที่ชาร์จไปนั้นเต็มแล้วหรือไม่ สะดวกในการที่จะชาร์จปล่อยทิ้งไว้ให้เครื่องมันทำงานไปเรื่อย ๆ ผมอยากแนะนำให้ซื้อเครื่องที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัตินะครับ เพราะเมื่อเครื่องชาร์จได้ทำการชาร์จพลังงานของเราจนเต็ม มันจะทำการหยุดปล่อยไฟทันที ซึ่งตรงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อถ่านชาร์จของเราแน่นอน ทั้งนี้ราคามันอาจจะสูงกว่าทั่วไปสักเล็กน้อยนะครับ

แต่ถ้าใครคิดว่าสามารถเข้ามาตรวจเช็คและดูว่าถ่านชาร์จของเรานั้นชาร์จเต็มแล้วหรือไม่ ก็อาจจะเลือกเครื่องที่ไม่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติก็ได้ครับ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายของตนเองนั้นเอง เนื่องจากราคาเครื่องชาร์จของมันจะถูกกว่าแบบที่มีระบบตัดไฟครับ

4. ดูว่ามีไฟ LED หรือไฟสถานะ หรือไม่?

ฟังก์ชั้นนี้หากมีก็เหมาะมาก ๆ ครับ ไม่ว่าเครื่องชาร์จของคุณจะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติหรือไม่ แต่อย่างน้อยมันจะต้องมีไฟที่สามารถจะบอกสถานะได้ว่าเครื่องชาร์จของเรานั้นได้ทำการชาร์จถ่านของเราอยู่หรือไม่ เพราะถ้าไม่มีมันจะเกินผลเสียอย่างแน่นอน เนื่องจากเราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันถ่านชาร์จนั้นได้ถูกชาร์จอยู่หรือเปล่า ทั้งนี้อาจส่งผลให้เกิดการเสียเวลา เพราะถ่านอาจไม่ได้รับไฟฟ้าครับ

บทความทั้งหมดนี้ผมหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณลูกค้าไม่มากก็น้อยนะครับ